สวัสดีครับ วันนี้ผมจะขอมาแนะนำเรื่องของความแตกต่างและเสน่ห์ของหนัง แต่ละเรื่อง
ทุกๆคนมีความติดที่แตกต่างกันอยู่แล้วหลายล้านคนอาจจะมีความคิดในการดูหนังเหมือนกันก็สัก 60% ทำไมหนังบางเรื่องเป็นหนังแอคชั่น หนังบู๊เหมือนกัน คนนึงดูหนังเรื่องนี้แล้วสนุก แต่อีกบางคนกลับบอกน่าเบื่อ บางคนดูหนังที่คุยกันทั้งเรื่องอยู่ในฉากเดียวเช่น The man from earth หนังที่ผมคิดว่ายกย่องเป็นหนังที่ดีเลยเรื่องนึง แต่กลับบางคน ดันบอกว่าน่าเบื่อ ไม่สนุกซะงั้น นั้นก็เพราะว่า รสนิยมของการดูหนังคนเรานั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง บางคนดูเอาสนุก ดูหนังมันส์ๆ บางคนดูเอาข้อคิด แง่คิด ในมุมของหนังที่จะสื่อ ถึงขั้นลงลึกเลยก็มี ยกตัวอย่างเช่นหนังของผู้กำกับ
อย่าง quentin tarantino,guillermo del toro ที่เป็น 2 ผู้กำกับ ที่ผมชอบในการดูหนังของเขามากๆ เพราะนอกจาก สนุก มันส์ แล้ว ยังได้ข้อคิดและการเชื่่อมโยงของบทบาทในหนังได้ดีมากๆ
ยกตัวอย่างเช่น หนังใหม่เรื่องล่าสุดของ del toro ก็คือ The Shape Of Water ทำหน้าปกตัวอย่างได้ออกมา แฟนตาซี มากๆ คล้าย โฉมงามกับเจ้าชายอสูร เลยทีเดียว แต่พอได้ดูแล้ว เอิ่ม... สุดยอดจริงๆ ในแง่คิดของหนังและความดาร์ค แทบจะออก Noir-flim อยู่แล้วอีกนิดเดียว5555
แต่ถามว่าคนดูหนังปกติทั่วไปเห็นแค่หน้าปกตัวอย่างแล้วเข้าไปดูโดยที่ไม่ได้ลงลึกในเนื้อหาหรือเป็นแฟนตัวยงอยู่แล้ว อาจจะผิดหวังนิดนึงที่จะได้เห็นฉากหวาน แต่ขอยอมรับว่า The Shape Of Water นี่ทำได้สวยงามมากกว่าหนังรักหลายๆเรื่องเลยทีเดียว
มากันต่อกับหนังของผู้กำกับอย่าง quentin tarantino ยกตัวอย่างหนังที่ผมดูแล้วชอบเลยก็เช่น Django,inglorious bastards(ยุทธการเดือดเชือดนาซี) ซึ่งยังพอดูเป็น หนังบู๊ หนังแอคชั่นได้สำหรับบางคน แต่สำหรับผมแล้วมันมีอะไรมากกว่านั้นหลายอย่าง ทั้งการซ่อน ตลกร้ายเล็กๆ ซ่อนความเป็น Bad Joke Movie อยู่ในตัวหนังได้อย่างแนบเนียนมาก
สรุปแล้วว่าความแตกต่างและเสน่ห์ของตัวหนังนั้นดูที่ไหน ฉากแอคชั่น? ความที่เป็นหนังบู๊?
ความน่ากลัวของหนังผี? ฉากตกใจ Jump Scare ในหนัง? แล้วhereditary ล่ะแทบไม่มีฉาก Jump Scare นับว่าไม่มีเลยก็ว่าได้ แต่ทำไมทำเอาบางคนหลอนไปนานเชียว แต่บางคนกลับพูดว่า นี่หนังอะไรวะ? 555555555 สำหรับผม ความแตกต่างและเสน่ห์ของตัวหนังนั้น อยู่ที่
1.จุดประสงค์ของการดู เสพเนื้อเรื่อง,บทบาท,เอาสนุก,เอาความมันส์,ดูนักแสดง
2.เวลาในการดูหนัง (เหมือนไม่สำคัญนะแต่สำคัญมาก) หนังตลกที่ดูตอนเศร้าแล้วทำให้อารมณ์ดีนั้นแหละ เสน่ห์ของมัน
3.อคติ อันนี้สำคัญอย่างเช่นคุณเคยดูหนังของผู้กำกับคนนี้มาแล้วมันดันไม่ถูกจริตของคุณ เรื่องต่อๆมาคุณจะคิดว่ามันไม่สนุกไว้ก่อนอย่างเช่นคนไทยแทบจะ 70% มองหนังไทยไม่สนุกอีกต่อไปแล้ว5555
4.ภาพ,อนิเมชั่น,CG บางคนนั้นเสพ CG อนิเมชั่นอย่างมาก อย่างผมเป็นคนไม่ชอบดูการ์ตูน Sci fi movie หรือ อนิเมชั่นเลย ก็เลยมองข้ามไปดูด้านเนื้อเรื่องแทน แต่บางคนนี่เสพแต่ CG เท่านั้นก็มี
สรุปแล้วเราต่างหากที่เป็นคนกำหนด เสน่ห์ของหนังด้วยตัวเอง ผู้กำกับ,เขียนบท,ทีมงาน,นักแสดง เป็นเพียงแค่คนวาดลวดลาย ถ่ายทอดฝีมือ และเสน่ห์ปลายจวัก เท่านั้น